การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
Design As A Group Effort
ร่วมเข้าสู่การสนทนากับเราท่ามกลางนักพัฒนา วิศวกรทางด้านเสียงและผู้จัดการทางด้านเทคนิคผ่านขั้นตอนการสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่
ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นด้วยงานสถาปัตยกรรม
Kresten Bjørn Krab-Bjerre พูดไว้ว่า “เมื่ออธิบายถึงการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ที่ Bang & Olufsen และการเตรียมความพร้อมสำหรับนักออกแบบมากหน้าหลายตาก่อนที่จะมาถึง เรามีแนวความคิดที่ว่าประเภทขององค์ประกอบต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับผลิตภัณฑ์นั้นๆ เมื่อพูดถึงการมาของลำโพง ความต้องการที่มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับนักดนตรี ด้วย Beolab 50 ตัวอย่างเช่น การออกแบบการจัดวางลำโพงภายในจะถูกออกแบบมาก่อนที่นักออกแบบทางด้านดีไซน์จะทำการออกแบบรูปทรงลำโพง ดังนั้นทำให้การออกแบบในบางครั้งจะมีกระบวนการบางอย่างที่มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
Kresten Bjørn Krab-Bjerre เป็นนักพัฒนาและเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ทำงานด้านสายการผลิต การจัดการความคาดหวังและข้อมูลที่มีความหลากหลายไม่ว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการต่างๆ Søren Jørgensen กล่าวว่า “รูปแบบต่างๆ ภายในองค์กรนั้นจะเป็นไปตามสิ่งที่บริษัทเคยเป็นคนวางแนวทางไว้และเมื่อมีการเลือกฮาร์ดแวร์ใดๆ ก็ตามเช่น เดียวกับ Beolab 50 มันจะนำพาคุณไปสู่แพลตฟอร์มใหม่ที่มีความแน่นอนมากยิ่งขึ้น”
Søren Jørgensen คือผู้จัดการทางด้านเทคนิคและเป็นคนที่สามารถควบคุมทุกแง่มุมในสายการผลิต “เราทำการตั้งค่าในส่วนของตัวชี้วัดด้วย Beolab 50 ซึ่งจะต้องมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดอย่าง Beolab 5 เพื่อที่จะได้แสดงให้เห็นว่าเรานั้นมีความแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด”
Jakob Dyreby กล่าวไว้ว่า “สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่มีความหมายต่อรูปร่างและขนาด เราจำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่จำนวนมากในการที่จะให้อากาศภายในเกิดการสั่นไหวและพื้นที่สำหรับลำโพงเพื่อให้สามารถย้ายไปไหนมาไหนได้ ดังนั้นแนวคิดนี้จึงกลายเป็นแนวความคิดเบื้องต้นที่จะช่วยแนะแนวทางในการดีไซน์ให้กับนักออกแบบ”
Jakob Dyreby เป็นวิศวกรทางด้านเสียงและรับผิดชอบในส่วนของการออกแบบงานทางด้านเสียงเป็นหลัก การทำงานร่วมกันกับคนที่หลากหลายนั้นเป็นงานที่ท้าทายและสำคัญเป็นอย่างมากเมื่อต้องมีการผสมผสานกันระหว่างงานทางด้านดีไซน์และงานทางด้านเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน เราได้รวบรวมผู้พัฒนาทางด้านแนวคิด วิศวกรด้านเครื่องกลและผู้ชำนาญทางด้านเสียงที่อยู่เบื้องหลังงานอย่าง Beolab เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับกระบวนการออกแบบที่จะต้องทำงานร่วมกันเพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Bang & Olufsen เพราะความเชื่อของผู้คนที่มีความแตกต่างกัน นักออกแบบจาก Struer ไม่ใช่ผู้ออกแบบเพียงผู้เดียว แต่เป็นการทำงานร่วมกันของทีมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา
ตามที่ระบุไว้กระบวนการออกแบบเริ่มต้นด้วยการดูที่สถาปัตยกรรม แต่ก่อนที่คุณจะไปถึงจุดนั้นก็มีขั้นตอนของแนวคิดในการวางรากฐาน ถ้าถาม Kresten Bjørn Krab-Bjerre ก็เหมือนกับการออกไปชอปปิง “ส่วนสำคัญในการสร้างผลิตภัณฑ์คือการวางงบประมาณสำหรับการชอปปิง” “คุณมีชั้นวางพร้อมของทั่วไปและของจำเป็น และชั้นวางพร้อมลูกกวาดและสิ่งล่อใจอื่นๆ และถ้าคุณเลือกไอศกรีมชิ้นใหญ่ หมายความว่า คุณจะได้ช็อกโกแลตชิ้นเล็กๆ เท่านั้น ดังนั้นเราจึงพิจารณาสถานการณ์ต่างๆ ไปพร้อมกับการตัดสินใจอยู่เสมอ ถ้าเราเลือกเบสที่หนักแน่นแต่มีมิดเรนจ์สองสามตัว เราจะสามารถนำไปใช้ในการออกแบบได้มากขึ้นและหากเราเลือกแอมพลิฟายเออร์ตัวอื่น เราสามารถทำสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงกับวัสดุได้ ทางเลือกเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ เคลื่อนไหว ”Jakob Dyreby และ Søren Jørgensen เห็นด้วยกับเพื่อนร่วมงานแต่หนึ่งในทีมได้เสริมว่าการสรุปแนวคิดที่พวกเขาใช้นั้นมีความคิดที่ตรงไปตรงมามาก แทบจะไม่ยอมใครง่ายๆ” “เหตุผลที่เรามาที่นี่ (ที่ Bang & Olufsen) ก็เพราะว่าเราหลงใหลในสิ่งที่เราทำและต้องยอมรับว่าเราทำให้หลงไปชั่วขณะ” เสียงหัวเราะดังขึ้นเมื่อ Kresten Bjørn Krab-Bjerre บรรยายถึงบรรยากาศของบริษัท “แต่เราให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นอันดับแรกเสมอ” เขากล่าวเสริม “ถ้าแพ็คเกจทั้งหมดน่าดึงดูดสำหรับพวกเขา เราก็จัดให้ได้ตามคำขอ”
วิธีที่เราแลกเปลี่ยนทางความคิดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เกินความคาดหวังที่เราตั้งไว้
Søren Jørgensen กล่าว “เมื่อคนซื้อลำโพงจาก Bang & Olufsen มักจะมีความคาดหวังบางอย่างที่เราต้องทำให้บรรลุให้ได้วัสดุงานฝีมือทุกชิ้นต้องมีความโดดเด่นและเมื่อมันสามารถเคลื่อนไหว ต้องไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่สร้างความสงสัยให้กับคนที่ซื้อ” Jakob Dyreby กล่าว “จากมุมมองเกี่ยวกับเสียง เราต้องนำเสนอในระดับสูงสุดที่เราเคยทำมา”
เมื่อคุณลองพิจารณาคุณลักษณะที่ต้องมี 3 สิ่งสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen ได้แก่ คุณสมบัติที่จำเป็น คุณภาพที่ลูกค้าคาดหวังและคุณภาพจากการจัดตำแหน่งของลำโพง คุณสมบัติบังคับคือข้อกำหนดทางกฎหมายจากหน่วยงาน ส่วนคุณภาพที่คาดหวังคือสิ่งที่คุณคาดหวังจากผลิตภัณฑ์ในราคานี้ เช่น คุณภาพเสียง ระดับของงานฝีมือ และการบริการลูกค้า คุณลักษณะสุดท้ายแต่สำคัญที่สุดคือคุณภาพการจัดตำแหน่ง ซึ่งในกรณีของ Beolab 50 คือความรู้สึกที่เหนือความคาดหมายที่คุณจะได้รับเมื่อ Acoustics Lens ปรากฏขึ้นและค่อยๆ กางออกให้กว้าง
“คุณสมบัติในการจัดวางตำแหน่งของลำโพงสามารถทำให้คุณเหมือนอยู่ในช่วงเวลาต้องมนต์เล็กๆ คุณจะรู้สึกว่าพวกเขาอยู่ไม่ได้โดยปราศจากผลิตภัณฑ์” Kresten Bjørn Krab-Bjerre กล่าวด้วยความมั่นใจขณะที่เขาเป็นคนสาธิตการเคลื่อนไหวของ Acoustic Lens”
“คุณภาพทางด้านเสียงของ Beolab 50 เป็นสิ่งที่คุ้มค่าพอที่จะกล่าวถึงในทุก Position ของตัวมันเอง Jakob Dyreby ได้พูดเพิ่มเติมไว้ว่า “พวกเราอยู่ในจุดสูงสุด ณ ที่แห่งนี้และการใช้ความรู้จากรุ่นเรือธงของเราอย่าง Beolab 90 ของเราในแง่ของพลัง ความชัดเจนและความแม่นยำ เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งและด้วยการจัดวางชุดลำโพงภายในอย่างชาญฉลาดทำให้เราสามารถออกแบบงานที่สร้างสรรค์และยอดเยี่ยมได้อีกด้วย”
เทคนิคลับนั้นก็คือการนำชิ้นส่วนทั้งหมดเข้ามาใส่ในตู้ Cabinet เช่นเดียวกับการปล่อยความร้อนและทำให้บรรยากาศภายในเกิดการเคลื่อนตัวไปมาเพื่อวัดค่าและนี่คืองานของ Søren Jørgensen “มันเปรียบเสมือนเป็นการเล่นต่อภาพที่ยิ่งใหญ่เพราะต้องมีการเดินสายไฟที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมากเพื่อประกอบมันเข้าด้วยกัน ดังนั้นขั้นตอนการออกแบบจึงต้องอาศัยกระบวนการจดจำ ทำซ้ำและทดสอบอยู่หลายครั้ง เพราะการกระทำแต่ละอย่างนั้นจะส่งผลต่อกันและกัน ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ทุกส่วนนั้นมีส่วนร่วมในการผลิต”
Jakob Dyreby กล่าวว่า “ทุกการตัดสินใจย่อมมีผลต่อเสียงที่ออกมา ซึ่งหมายความว่าจะมีการทดสอบในส่วนของแผนก Acoustics ภายหลัง เป็นเรื่องที่ดีที่เราได้ทำการเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจาก Beolab 90 ที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ซึ่งมันไม่ได้เพียงแค่ช่วยให้เราประหยัดเวลาเพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ตัวถัดไปนั้นมีความเหนือระดับมากยิ่งขึ้น”
Kresten Bjørn Krab-Bjerre กล่าวว่า “ความรู้ของเราเกี่ยวกับเสียงภายในห้องที่เราทำการทดลองส่งผลให้การทดลองนั้นมีความก้าวกระโดดเป็นอย่างมากด้วย Beolab 90 และ Beolab 50 ซึ่งคุณจะเห็นคุณสมบัติเหล่านี้ผ่านลำโพงตกแต่งบ้านอย่าง Beosound 1 และ Beosound 2 และคุณจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ภายใต้ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ของเราต่อไป”
จิตวิญญาณแห่ง Bang & Olufsen
การทำงานร่วมคือกุญแจหลักที่สำคัญเพื่อไปสู่ความสำเร็จ
Jakob Dyreby กล่าวว่า “ความมหัศจรรย์เกิดขึ้นระหว่างการออกแบบเสียงและความคิดเบื้องหลังของระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมด”
Kresten Bjørn Krab-Bjerre กล่าว “กุญแจสู่ความสำเร็จของเราคือวิธีที่เราทำงานร่วมกัน เราทำงานเป็นทีมโดยมีความเข้าใจร่วมกันว่าวัตถุประสงค์คืออะไร เรานั่งด้วยกันและเรามีความรับผิดชอบต่อกัน หากวิศวกรทางด้านเสียงมีปัญหา เจ้าหน้าที่จากแผนกการพัฒนาแนวคิดและกลไกจะพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และในทางกลับกันมันไม่ได้เกี่ยวกับแผนกใดแผนกหนึ่งว่าแผนกนั้นสำคัญกว่าแผนกอื่น แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างสิ่งต่าง ๆ อย่างพร้อมเพรียงกัน”
“ด้วยจิตวิญญาณของ Bang & Olufsen และวิธีการทำงานร่วมกันทำให้บริษัทของเราแตกต่างอย่างแท้จริง” Kresten Bjørn Krab-Bjerre กล่าวว่า “เราพยายามปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและดูรายละเอียดอยู่เสมอและเราใช้ทักษะที่หลากหลายเพื่อตอบคำถามจากทางบ้าน เราสามารถทำงานให้ออกมาดีได้เมื่อเราทำงานร่วมกัน อันที่จริงมักมีการโต้แย้งว่าเราสามารถลบโลโก้ออกจากผลิตภัณฑ์ Bang & Olufsen ทั้งหมดได้ แต่ผู้คนก็ยังคงให้คำตอบกับเหล่าผู้ผลิตว่าโลโก้ของ Bang & Olufsen เป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนถึงความหลงใหลของผู้คน”
จากรุ่นสู่รุ่น
ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากอะลูมิเนียม
จุดเริ่มต้นของการนำอะลูมิเนียมมาให้
จากรุ่นสู่รุ่นของนวัตกรรมวัสดุ
ความอยากรู้นั้นคือ สิ่งที่กระตุ้นการบุกเบิกงานอะลูมิเนียมของ Bang & Olufsen ในปี 1955 เมื่อการประชุมทางอุตสาหกรรมคือการใช้โลหะหนัก เช่น แคดเมียม โครเมียม และนิกเกิลในผลิตภัณฑ์เครื่องเสียง วิศวกรของ Bang & Olufsen รู้สึกทึ่งกับความเป็นไปได้ของอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นวัสดุที่แข็งแรง ยืดหยุ่น แบนราบ และทนต่อการกัดกร่อน ทุกวันนี้ พื้นผิวอะลูมิเนียมที่เรียบลื่นคล้ายกระจกได้กลายเป็นส่วนสำคัญและมีอยู่ทุกหนทุกแห่งของการออกแบบที่สวยงามของ Bang & Olufsen Ib Kongstad กล่าวว่า “อะลูมิเนียมมีผลใช้เป็นเครื่องมือ ไม่เพียงแต่กับการทำงานของผลิตภัณฑ์ของเราแต่ยังรวมถึงวิธีการออกแบบอีกด้วย”Ib ค่อนข้างมีความรู้ นับตั้งแต่ร่วมงานกับ Bang & Olufsen ในปี 1984 ในตำแหน่งวิศวกรเคมี เขาได้ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคในการชุบ Anodic ซึ่งเป็นการรักษาพื้นผิวด้วยเครื่องกลไฟฟ้า กระบวนการนี้เกิดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของโรงงาน Bang & Olufsen ในเมือง Struer ทางเหนือของเดนมาร์ก ทำให้เกิด Oxide layer ต้านทาน ซึ่งทำให้พื้นผิวอะลูมิเนียมมีความทนทาน
ภายในโรงงานของ Bang & Olufsen
ภายใน Factory 5 เครื่องตัด เครื่องบด และอุปกรณ์ขนย้ายเหล็กจะหลอมรวมกันเป็นเสียงเพลง ในขณะที่เส้นสีเหลืองบนพื้นสีเทาที่ทำเครื่องหมายแล้วจะออกจากสถานีงานซึ่งแผ่นและท่ออะลูมิเนียมจะเปลี่ยนโฉมด้วยกระบวนการของนักเล่นแร่แปรธาตุของเรา ขั้นแรกคือการแปรงและขัดเงา Ib ชี้ไปที่ฝาครอบหูแบบสัมผัสบนหูฟัง BeoPlay H8i ไร้สายเพื่อแสดงให้เห็นว่าการขัดเงาสร้างโครงสร้างคล้ายเกลียวในอะลูมิเนียมอย่างไร เงาสะท้อนที่อยู่กึ่งกลางจะหมุนวนราวกับวงล้อแห่งโชคลาภเมื่อคุณขยับมันที่วางบนพื้นโรงงานเป็นชั้นวางเหล็กที่จะประกอบไปด้วยวิทยุ โทรทัศน์ และเครื่องเสียงรถยนต์ มีรางอะลูมิเนียมสีดำที่แยกผ้าด้านหน้าออกจากพลาสติกบนลำโพง Beoplay A9 ตู้สเตอริโอติดรถยนต์ที่ดูเหมือนช่องหน้าต่างที่ขัดมันอย่างสมบูรณ์แบบบนเรือยอร์ชและตู้ลำโพงรูปทรงท่อจาก Beolab18 ที่จัดวางอย่างลงตัวด้วยความสง่างามและความแม่นยำของประติมากรรมในเครื่องกลึงไฮเทคของเรา ฐานรูปทรงกรวยสำหรับ Beolab 18 กำลังหล่อขึ้นซึ่ง เปรียบเสมือนท่อออร์แกนในโบสถ์เศษอะลูมิเนียมหมุนวนอยู่ภายในตู้เครื่องเมื่ออะลูมิเนียมหมุนและขัดเงา ในขณะที่ของเหลวที่เป็นฟอง – อิมัลชันน้ำมัน 6% – กระเด็นไปรอบๆ ราวกับเครื่องซักผ้า
กระบวนการทำอโนไดซ์
เมื่อขัดเงาอะลูมิเนียมที่อัดขึ้นรูปแล้ว จะถูกบรรจุลงในศูนย์กลางของโรงงาน นั่นคือ ศูนย์บำบัดด้วยกระบวนการอโนไดซ์ ถูกสร้างขึ้นในปี 1992 แต่ Ib กล่าวว่ายังคงอยู่ใน “ระดับโลก” จากมุมมองด้านสิ่งแวดล้อม อะลูมิเนียมยังเป็นความก้าวหน้าระดับโลกอีกด้วย ทำให้ Bang & Olufsen เลิกใช้โลหะหนักไปเป็นการรีไซเคิลอะลูมิเนียมในสถานที่ต่างๆ เช่น โรงงานปูนซีเมนต์ โรงงานชุบอโนไดซ์มีความยาว 50 เมตร และมีถัง 50 ถัง แต่ละถังบรรจุได้ 3800 ลิตร รางบนเพดานควบคุมเครนหุ่นยนต์สามตัวที่ยกและประกอบอะลูมิเนียมที่ติดตั้งลงในถัง เคลื่อนที่ทวนเข็มนาฬิกาผ่านกระบวนการที่พิถีพิถันซึ่งเริ่มต้นด้วยการขัดมัน – เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกและน้ำมัน – ก่อนที่จะดำเนินการแยกส่วน ออกซิไดซ์ ย้อมสี และปิดผนึก ระหว่างสถานีเหล่านี้คือถังเก็บน้ำเพื่อล้างวัสดุและให้ชื้นตลอดเวลา
เมื่อยืนอยู่บนฐานเหล็กที่อยู่ข้างถัง คุณจะได้เห็นประสิทธิภาพทางกลไกที่น่าหลงใหลอย่างประหลาด ขณะที่เครื่องจักรเคลื่อนย้ายที่เหมือนหุ่นยนต์จะเคลื่อนย้ายอะลูมิเนียมเก่าผ่านหลักสูตรและกรรมวิธีตัวนี้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพื้นผิวและเสริมประสิทธิภาพ ฉันดูเมื่อฝาครอบลำโพงเลนส์จาก BeoLab 18 หย่อนลงไปในน้ำ ติดตั้งเคียงข้างกันเหมือนนักว่ายน้ำที่ Synchronize ซึ่งผูกติดกับราง Titanium หลังจากการชุบอย่างรวดเร็ว เครนขนส่งจะยกชั้นวางขึ้นแล้วหย่อนลงในส่วนผสมของกรดไนตริกของถังแยกส่วนเพื่อขจัดสิ่งตกค้างที่เป็นด่างที่เกิดขึ้นระหว่างการกัดเซาะ จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการออกซิไดซ์
การทำสี Panes ฝาปิด ตู้และท่อ เป็นเทคนิคการออกแบบอย่างรอบคอบซึ่งได้รับการพัฒนาโดย Ib และเพื่อนร่วมงานของเขาเพื่อตอบสนองต่อวิสัยทัศน์และความต้องการของนักออกแบบของ Bang & Olufsen ระบบการพ่นสีครั้งแรกถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1990 และได้รับคำแนะนำจากอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำความสะอาดถังอย่างล้ำลึกและขจัดร่องรอยของสิ่งแปลกปลอม
เลือกสรร
หนึ่งในผลิตภัณฑ์แรกของ Bang & Olufsen ที่เป็นอะลูมิเนียมย้อมสีนั้นก็คือ Avant 28 ซึ่งเป็นทีวีจอ Widescreen ที่มีโครงแบบติดผนังขนาดใหญ่ เครื่องเล่น VCR และแถบอะลูมิเนียมอยู่ใต้ลำโพงที่แผงด้านหน้าIb เล่าว่า David Lewis หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Bang & Olufsen ในขณะนั้นที่ Factory 5 เค้ามีความคิดที่ไม่เหมือนใคร “เขาบอกเราว่าเขาต้องการให้สีบนสายอะลูมิเนียมให้เป็น ‘Young Bordeaux’ นอกจากนี้ยังต้องมีความทนทานต่อรังสียูวี บางครั้ง Lewis จะใช้สีเทียนเพื่อค้นหาสีที่เหมาะสมก่อน เขาผสมสีเทียนและทันใดนั้นเขาก็พูดว่า ‘อ้อ! นึกออกแล้ว!’ นั่นคือสีตั้งต้นที่เค้าได้เริ่มต้นทั้งหมดสำหรับระบบสีของเรา”ในห้องควบคุมถัดจากโรงงานชุบ Anodizing หน้าจอคอมพิวเตอร์จะติดตามการเคลื่อนที่ของวัสดุอะลูมิเนียมที่ติดตั้งจากโซนกันชนพื้นโรงงานไปยังถังต่างๆ กล่องสีเหลืองบนหน้าจอการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ขนย้าย – ราบรื่นและมีประสิทธิภาพเหมือนศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ – แม้ว่าทั้งหมดจะทำงานบนพีซีตามคำสั่งที่ป้อนลงไป ซึ่งดูไม่ค่อยดีนักเมื่อพิจารณาถึงความมหัศจรรย์ทางเคลื่องจักรกลของโรงงาน
“เทคโนโลยีสามารถนำความสงบสุขมาสู่โลกได้“
ในกรอบหน้าต่างข้างคอมพิวเตอร์ มีอะลูมิเนียมสีแดงที่มีการแกะสลักสีทองอ่อน: “เทคโนโลยีสามารถนำความสงบสุขมาสู่โลก” คำและลายมือเป็นของ Jackie Chan ดาราภาพยนตร์ที่เกิดในฮ่องกง ผู้ชื่นชอบ Bang & Olufsen มากว่า 35 ปี ที่มาเยี่ยมชม Factory 5 ในปี 2555 เมื่อ Chan เข้าไปในโรงงานผลิต เขาคุกเข่าและจูบที่พื้นโรงงาน มันสะอาดเหมือนร้านอาหาร” นักแสดงกล่าว ในทางกลับกัน เขาได้รับทีวี Beovision 10 ที่สลักถ้อยคำที่เขาจดไว้ในระหว่างการมาเยี่ยมเยือนIb ได้ทำงานร่วมกับศิลปินหลายคนตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงจิตรกรและประติมากรชาวอเมริกันชื่อดัง Miya Ando ผู้สร้างชุดเฟรมอะลูมิเนียมที่เข้ากับลำโพง Bang & Olufsen ที่ย้อมด้วยมือ ความชื่นชมของศิลปินเหล่านี้สำหรับงานฝีมือของ Bang & Olufsen และความร่วมมือกับทีมงานที่ Factory 5 ถือเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ในการแสวงหาการพัฒนาศักยภาพของการชุบผิวอะลูมิเนียมต่อไป “เรายังคงมีอิสระในการทดสอบขีดจำกัด” Ib กล่าว “มันนำเราไปสู่จุดที่บางสิ่งอาจเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้”
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้
การทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้คือสิ่งที่ขับเคลื่อนทีมที่นี่ แม้ว่าคุณจะเห็นการแยกส่วนประกอบเสียงในขั้นตอนการพัฒนาที่แยกจากกัน เช่น ตะแกรงลำโพงสำหรับรถยนต์สีโลหะปืน กรอบขัดเงาแบบดิบของรีโมตคอนโทรล นี่คือจุดที่สิ่งเหล่านี้ผลักดันขอบเขตของประสิทธิภาพการทำงาน และนี่คือเหตุผลที่นักออกแบบหันไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านการเคลือบผิวที่ Factory 5 ในระยะเริ่มต้นของขั้นตอนการพัฒนา”ไม่มีข้อจำกัดใดๆ” Ib กล่าว “เราไม่ชอบที่จะบอกว่าไม่มีหรือเป็นไปไม่ได้ เรามีธุรกิจที่ขับเคลื่อนโดยนักออกแบบ เราจึงเป็นโรงงานอะลูมิเนียมที่ก้าวหน้าที่สุด เป็นเพราะนักออกแบบของเราผลักดันเราให้ถึงขีดจำกัด คุณไม่สามารถจ้างกระบวนการผลิตประเภทนี้ให้กับบริษัทอื่นได้… พวกเขาจะวิ่งหนีพร้อมเสียงกรีดร้อง”
KRESTEN BJØRN KRAB-BJERRE, CREATIVE DIRECTOR
เรื่องราวของการออกแบบ
“เราไม่ได้ทำงานจากเทคโนโลยี เราทำงานจากแนวคิดเสมอ” Kresten Bjørn Krab-Bjerre Creative Director บอกเราว่าประสบการณ์ของมนุษย์สามารถชี้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Bang & Olufsen
พลังของงานฝีมือ การออกแบบ และเสียง
“มันทำให้ฉันนึกถึงลูก ๆ ของคุณ… คุณไม่เคยมีลูกคนโปรดใช่ไหม ไม่อย่างนั้น คุณก็จะไม่ยอมรับ!” Kresten หลงใหลในผลิตภัณฑ์ที่เขาและทีมได้พัฒนาร่วมกัน ซึ่งสร้างขึ้นที่สำนักงานใหญ่ Bang & Olufsen ในเมือง Struer ประเทศเดนมาร์ก สำหรับเขาเท่านั้นนี้ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ “มันเหมือนกับว่าเราต้องการสร้างสรรค์ประสบการณ์”
เสียงเป็นเครื่องมือสำคัญของเขา
Kresten ได้พูดว่า อันที่จริง การพูดคุยเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาต้องการทำมากที่สุดในที่ทำงาน “เครื่องมือหลักของฉันคือเสียง” Kresten อธิบายโดยสรุปกระบวนการสร้างสรรค์ที่นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Bang & Olufsen สำหรับเขาแล้ว การสร้างบทสนทนาเป็นส่วนสำคัญที่สามารถช่วยสรรค์สร้างความคิดที่หลากหลาย “ความรับผิดชอบของฉันที่นี่คือการเชื่อมโยงระหว่างนักออกแบบและวิศวกรภายใน Bang & Olufsen” เขากล่าวโดยเขาพยายามสร้างความสมดุลระหว่าง นวัตกรรมการออกแบบ ความเรียบง่าย รวมถึงเสียงที่ทรงพลังและแม่นยำ
แต่ไม่ว่าแนวคิดการออกแบบจะมีความสร้างสรรค์ หรือมีความคิดที่แปลกใหม่เพียงใด ทีมต่างๆ ใน Struer ก็ได้ให้มุมมองแนวคิดและวิสัยทัศน์ จากการก่อตั้งบริษัทในปี 1925 “เมื่อคุณทำงานให้กับ Bang & Olufsen ” Kresten อธิบาย “เพราะโดยปกติแล้ววิศวกรของเรา พวกเขามักจะคลั่งไคล้และตอบตกลงที่จะทำมันอยู่เสมอ”
ผลิตภัณฑ์และความร่วมมือ
การสร้างผลิตภัณฑ์ใน Bang & Olufsen คล้ายกับการเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ซึ่งเปลี่ยนองค์ประกอบของเสียง การออกแบบ และงานฝีมือให้กลายเป็นสิ่งที่มากกว่าผลรวมของชิ้นงาน Kresten และทีมงานของเขาเป็นผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมดังกล่าวและวิสัยทัศน์เชิงจินตนาการ รับรองว่า Bang & Olufsen จะผลักดันความคิดสร้างสรรค์ต่อไป แต่สำหรับการคิดเชิงออกแบบต้องมีเหตุมีผล การวิจัยและการพัฒนาอย่างเข้มงวดที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่ใช้สัญชาตญาณและอารมณ์เป็นแกนหลัก “คุณจะได้สัมผัสถึงบางสิ่งที่พิเศษและได้ผลจริงๆ” Kresten อธิบาย
BRITTA DICKMEISS, ผู้เชี่ยวชาญเทคนิคด้านกาวและอโนไดซ์
เรื่องราวของงานฝีมือ
“วิธีที่คุณเห็นสิ่งต่าง ๆ อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล” เราได้พูดคุยกับ Britta Dickmeiss เกี่ยวกับงานของเธอใน Struer ประเทศเดนมาร์กที่สำนักงานใหญ่ของ Bang & Olufsen ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์มีความสมบูรณ์แบบไม่เหมือนใคร ฟิสิกส์ของสี และความสวยงามในสายตาของผู้มอง
ทำให้ง่ายเข้าไว้
งานส่วนใหญ่ของ Britta คือการสื่อสาร: พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานในทีมออกแบบของ Bang & Olufsen เพื่อแปลแนวคิดของพวกเขาให้เป็นความจริง นอกจากทักษะเฉพาะทางขั้นสูงนี้แล้ว Britta ยังเก่งในการสื่อสารแนวคิดที่ซับซ้อนกับคนส่วนมาก (เช่น ทีมเนื้อหาของ Bang & Olufsen): “ในการที่จะมีสี คุณต้องมีแหล่งกำเนิดแสง วัตถุ และผู้ดู ทั้งสามสิ่งนี้ส่งผลต่อวิธีที่คุณเห็นสี” แต่นั่นเป็นคำอธิบายง่ายอย่างไม่น่าเชื่อเกี่ยวกับความคิดและการทำงานหนักที่ Britta ใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen
Infinite Variations
“ในการทำอโนไดซ์ เราสร้างชั้นป้องกันนี้ที่ด้านบนของอะลูมิเนียมเพื่อป้องกันพื้นผิวจากการขีดข่วนหรือการกัดกร่อน” Britta อธิบาย “มันเป็นชั้นที่บางมาก เพียง 1 ใน 10 ของความหนาของเส้นผม ภายในชั้นพื้นผิว คุณสามารถเพิ่มสีลงไปได้ นั่นหมายความว่าสีติดอยู่ภายในพื้นผิวและไม่ใช่แค่วางบนพื้นผิวเท่านั้น”
สิ่งที่แตกต่าง
Britta พาเราไปยังพื้นที่สร้างอโนไดซ์อะลูมิเนียมที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ของโรงงานของ Bang & Olufsen ในเมือง Struer ซึ่งเป็นโรงงานที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในโลก ที่ซึ่งเราสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว “ต้องสีแดงมากขึ้นหรือสีเขียวอีกเล็กน้อยเพื่อให้ได้เฉดสีที่ถูกต้อง” เธออธิบายขณะที่เธอกำลังทำงานของเธอผ่านเม็ดสีว่าหลังจากผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนจะส่งผลให้ได้เฉดสีที่เขียวชอุ่มซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ของเราอย่างแท้จริง ไม่มีบริษัทอื่นที่คล้ายคลึงกันที่ยืนยันในการควบคุมผลิตภัณฑ์ของตนอย่างสมบูรณ์เช่น Bang & Olufsen
FINN NØRDAARD KLINT ผู้เชี่ยวชาญด้านการขัดเงา
เรื่องราวงานฝีมือ
“งานได้รับการขัดเกลามากขึ้น” Finn Nordaard Klint ผู้เชี่ยวชาญด้านการขัดเงากล่าว ในฐานะหนึ่งในช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญของเรา ความเชี่ยวชาญของ Finn ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen สัมผัสได้ถึงงานผีมือในระดับสูง
การผสมผสานระหว่างช่างฝีมือและเทคโนโลยี
ต้องใช้การทดลองและจินตนาการเพื่อสร้างพื้นผิวที่เรียบเนียนสำหรับผลิตภัณฑ์ Bang & Olufsen ด้วยประสบการณ์หลายปีและความรู้เชิงปฏิบัติ Finn มีความเข้าใจอย่างครอบคลุมว่าวัสดุควรได้รับการดูแลอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เมื่อเขานำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ขั้นแรกเขาจะขัดพื้นผิวของต้นแบบด้วยมือ จากนั้นเขาตั้งโปรแกรมหุ่นยนต์ที่ซับซ้อน เพื่อทำชิ้นงานขึ้นมาใหม่และปรับแต่งให้ดีที่สุด นวัตกรรมทางเทคโนโลยีของเราช่วยให้สามารถกำหนดรูปแบบเครื่องจักรและกระบวนการที่สร้างพื้นผิวที่ไร้ที่ติ แต่เราก็ยังคงให้ความสำคัญต่องานฝีมืออยู่เสมอ
วิวัฒนาการของงานหัตถศิลป์
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen ทุกชิ้นมีการตกแต่งและงานฝีมือในระดับสูงต้องใช้ความเชี่ยวชาญ วิจัยและการทดลองจำนวนมาก กระบวนการของเราเป็นที่ยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญหลายทศวรรษและ มีการพัฒนาอย่างกว้างขวางภายในช่วงเวลานั้น Finn อธิบายว่าตั้งแต่เราเริ่มขัดเกลาเมื่อ 30 ปีที่แล้ว กระบวนการก็เปลี่ยนไปอย่างมากเพื่อรองรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เขากล่าวว่า “เรามีการขัดด้วยมือในตอนแรก ใช้คนทำการขัดเงา ต่อมามีการใช้เครื่องจักร ทำให้มีความเรียบง่าย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชิ้นส่วนต่างๆ ได้เปลี่ยนไป เราต้องใช้หุ่นยนต์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการ”
เราได้พูดคุยกับ Finn ในสำนักงานใหญ่ของ Bang & Olufsen ในเมือง Struer ประเทศเดนมาร์ก เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการขัดเงาและวิธีที่กระบวนการดังกล่าวมีส่วนทำให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
เขาบอกเราว่า “ส่วนใหญ่เป็นอะลูมิเนียมที่เราขัดมัน เพื่อที่เราใช้ผ้าฝ้ายและเพิ่มสารกัดกร่อน ทั้งหมดเกี่ยวกับแรงกดที่คุณใช้ ปริมาณของสารกัดกร่อน และความเร็วของการหมุนแผ่นดิสก์ ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวกำหนดพื้นผิวของชิ้นส่วน” เพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าแผ่นดิสก์ควรหมุนและปริมาณของสารกัดกร่อนที่จะใช้ Finn อาศัยประสบการณ์มากมายและพลังของการทดลองภาคปฏิบัติ “เมื่อเราได้ต้นแบบ ฉันจะเริ่มขัดมันด้วยมือ เมื่อคุณทำเช่นนี้ คุณจะได้รับแนวคิดเกี่ยวกับวิธีการตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำการเคลื่อนไหวแบบเดียวกัน หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นและมนุษย์ไม่สามารถทำได้” เป็นสัมผัสของมนุษย์ที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen มีผิวสัมผัสที่โดดเด่น
ภูมิใจในความสมบูรณ์แบบ
สำหรับช่างฝีมืออย่าง Finn การแสวงหาความแม่นยำอย่างต่อเนื่องจะขับเคลื่อนนวัตกรรมและความเป็นเลิศ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเพื่อต้อนรับการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ แต่ในเรื่องของงานฝีมือและการลงทุนที่รวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen ยังคงเหมือนเดิม ตามที่ Finn อธิบาย “เมื่อคุณถือผลิตภัณฑ์ของเราในมือ คุณจะรู้สึกภาคภูมิใจ”
งานหัตถกรรม
ที่ Bang & Olufsen แนวทางเฉพาะของเราในการออกแบบ ผลักดันให้เราคิดในแง่ของประสบการณ์ และเราใช้เรื่องราวจากประสบการณ์ในการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ของเรา
Aluminium
เป็นหนึ่งในวัสดุที่เบาและแข็งแรงที่สุดในโลก อะลูมิเนียมนำทั้งความสามารถในการพกพาและ การระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพนำพาความแข็งแกร่งมาสู่ผลิตภัณฑ์ อะลูมิเนียมก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการออกแบบอะคูสติก์สของเรา นอกจากนี้ยังทำให้สีที่ออกมามีเอกลักษณ์ ในกระบวนการอโนไดซ์ ทั้งการรักษาพื้นผิวและเฉดสี ตลอดจนความอิ่มตัวของสีและความสว่าง สามารถดึงความลึกที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ได้คุณภาพมากกว่าการทาสีปกติ
Leather
การสัมผัสผลิตภัณฑ์ Bang & Olufsen ครั้งแรกของคุณเริ่มต้นที่หนัง และสิ่งสำคัญคือต้องให้สัมผัสที่นุ่มนวลและสบายผิว เรายังต้องการวัสดุที่มีความสวยงาม เรายังแยกแยะความแตกต่างของหนังของเราโดยพิจารณาจากตำแหน่งและวิธีการใช้งาน บนหูฟังของเรา เราใช้หนังแกะที่นุ่มและยืดหยุ่นสำหรับ่วนที่สัมผัสกับใบหู ในขณะที่แถบคาดศีรษะทำจากหนังวัวที่มีโครงสร้างและหนาเพื่อให้ทนทานต่อการสึกหรอ
Fabric
เราใช้ความสมบูรณ์ ความซับซ้อน และความอบอุ่นของผ้าผสมขนสัตว์กับผลิตภัณฑ์หลายอย่างของเรา การทำงานร่วมกับ Kvadrat ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่โดดเด่นที่สุดในโลกของสิ่งทอ โดยใช้ผ้าตรงพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ของเราให้เข้ากับชุดสีการออกแบบตกแต่งภายใน จากนั้นจึงใช้สีที่หลากหลาย คุณรู้หรือไม่ว่าเราผสมเส้นด้ายสีเขียวอ่อนจำนวนเล็กน้อยในเส้นด้านสีดำ เพื่อให้ได้ผ้ามีความลึกของสีมากขึ้น
Wood
ตามแนวคิดแล้ว การใช้ไม้ในผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen มาจากการที่เราเชื่อว่าเทคโนโลยีควรปรับเข้ากับบ้านของคุณอย่างไร มรดกแห่งสแกนดิเนเวียคือการนำไม้ธรรมชาติเข้ามาในบ้านสะท้อนให้เห็นจากการใช้องค์ประกอบโครงสร้าง เช่น Lags in Smoked Oak, Pine, Walnut หรือ Maple ที่เราเคลือบด้วยน้ำมันธรรมชาติ ซึ่งให้ผิวสัมผัสที่นุ่มนวลและอบอุ่นเสมอ
วัสดุแท้คุณภาพสูง
วัสดุธรรมชาติ เฉดสี ความอิ่มตัวของสี น้ำหนักเบา พื้นผิว ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ การมีวัสดุที่เหมาะสมในผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมมีความสำคัญ ประกอบกับเสียงและการออกแบบงานฝีมือที่อยู่ลึกเข้าไปในหัวใจและจิตวิญญาณ นี่คือวิธีของเรา ถ้ามีลักษณะเป็นอะลูมิเนียม แสดงว่าเป็นอะลูมิเนียม ถ้าดูเหมือนหนัง แสดงว่าเป็นหนังแท้ ถ้าดูเหมือนไม้ แสดงว่าเป็นไม้ธรรมชาติ เราใช้วัสดุแท้มาเสมอและ เรายังใช้คุณสมบัติเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นอย่างที่ควรจะเป็น ไม่เพียงแต่จะดูดีเท่านั้น แต่วัสดุเหล่านี้ยังได้รับการคัดเลือกมาเพื่อการใช้งาน คุณภาพ และความสะดวกสบายอีกด้วย
ฟังก์ชันอัจฉริยะ
ความรู้คือแก่นแท้ของงานฝีมือที่สวยงาม ด้วยแนวคิดเบื้องหลังผลิตภัณฑ์ของเรา ความรู้คือสิ่งที่ขับเคลื่อนงานฝีมือของเรา ด้วย Beoplay A1 แนวคิดคือการสร้างผลิตภัณฑ์ให้เป็นเพื่อนเดินทางที่สมบูรณ์แบบ เราจึงเลือกอะลูมิเนียมเพราะทนทานต่อรอยบุบและรอยขีดข่วนได้อย่างสวยงาม เปรียบเสมือนร่องรอยของประสบการณ์และความทรงจำ
ใส่ใจในรายละเอียด
เราใช้เวลามากมายในการสร้างรายละเอียด วัสดุนี้จะมีลักษณะอย่างไรภายใต้แสงนี้ ความอิ่มตัวของสีและเฉดสีส่งผลต่อพื้นผิวอย่างไร เรารู้ว่าการออกแบบที่ยอดเยี่ยมเป็นเรื่องเกี่ยวกับ รายละเอียดที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว แค่คุณพลาดหนึ่งรายละเอียดจะทำให้ชิ้นงานสูญเสียทั้งหมด เราจึงใส่ใจในรายละเอียดมากเป็นพิเศษครั้งแล้วครั้งเล่า
NEO KAPLANIS, นักเทคนิคเฉพาะทาง, ออกแบบเสียง
เรื่องราวของเสียง
“ห้องนี้ได้ถูกกำหนดวิธีที่คุณจะได้ยินเสียงของคุณจริงๆ” ถูกอธิบายไว้โดย Neo Kaplanis ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเสียง ซึ่งการทดลองนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการทดลองในครั้งก่อนๆ และการได้ยินเสียงที่แม่นยำนั้นจะช่วยให้คุณมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen ว่าจะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกสภาพแวดล้อมที่คุณเป็นคนเลือกเอง
การผสมผสานระหว่างประสบการณ์และความสมบูรณ์แบบ
แม้ว่าลำโพงที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นในทางด้านเสียง การจัดวางลำโพงสุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ลำโพงนั้นถูกนำไปวางไว้เสมอ ซึ่งหมายความว่าลำโพงและสภาพแวดล้อมนั้นเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ถึงอย่างนั้น Neo ยังเข้าใจดีว่าเสียงอันทรงพลังจะกลายเป็นประสบการณ์ที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้ในทุกสภาพแวดล้อม เมื่อเรามีการวางแผนในเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ Bang & Olufsen Neo จะเป็นคนที่มุ่งมั่นจำลองสถานการณ์เพื่อประสบการณ์ที่คุณจะได้รับในชีวิตจริงซึ่งมันอาจจะมีความแตกต่างไปบ้างจากประสบการณ์ที่มันควรจะเป็น การอุทิศตนของ Neo เพื่อการวิจัยและพัฒนาช่วยให้เหล่าวิศวกรของเรานั้นสามารถรังสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลำโพง หูฟังและซาวด์บาร์ที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำในสภาพแวดล้อมที่มีการผสมผสานระหว่างสไตล์ร่วมสมัย
การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเสียงดนตรีและสภาพแวดล้อม
การรับรู้ของคนในปัจจุบันจะกลายเป็นศูนย์กลางของหลายๆ อย่างของ Bang & Olufsen ที่กำลังพัฒนาขึ้นและงานของ Neo ช่วยให้ปฏิสัมพันธ์ของผลิตภัณฑ์และสภาพแวดล้อมมีความกลมกลืนกันมากยิ่งขึ้นเมื่อเราจัดวางตำแหน่งลำโพงและชนิดของสภาพแวดล้อมที่ลำโพงวางอยู่จะส่งผลต่อเสียงมากกว่าตัวลำโพงเอง “ถึงแม้ว่าคุณจะมีลำโพงที่สมบูรณ์แบบในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย สิ่งที่คุณจะได้รับคือการผสมผสานระหว่างสองสิ่งนี้” การทำงานร่วมกันระหว่างผลิตภัณฑ์และพื้นที่นี้ถูกทดลองในห้องทดลองของ Bang & Olufsen ที่เมือง Struer ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของทุกกระบวนการ
การมองหาความเป็นเลิศ
การแสวงหาความเป็นเลิศคือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญใช้ในการขับเคลื่อนตัวของพวกเขาเองอย่าง Neo เขาจะใช้ความเชี่ยวชาญของเขาผสมผสานไปกับเทคโนโลยีล้ำสมัยของ Bang & Olufsen Neo เป็นคนพูดเองว่า “ในฐานะนักออกแบบ ฉันต้องแน่ใจว่าไม่ว่าคุณจะนำผลิตภัณฑ์ของเราไปตั้งไว้ที่ไหน เสียงของมันต้องออกมาดีที่สุดเท่าที่มันจะทำได้” และนั้นก็คือความรู้ทั้งหมดที่เราศึกษาระหว่างพื้นที่ของสภาพแวดล้อมกับการรับรู้ของผู้ฟัง
GEOFF MARTIN, TONMEISTER
เรื่องราวของเสียง
“งานของฉันคือฟังสิ่งที่มักจะทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังอยู่เสมอ” Tonmeister Geoff Martin ชายผู้มุ่งมั่นเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ Bang & Olufsen ทุกชิ้นมีเสียงที่สมบูรณ์แบบดังกล่าว
การเล่นแร่แปรธาตุของงานฝีมือ การออกแบบและเสียง
Geoff เป็นผู้ฟังที่ดี อันที่จริงแล้วเขาฟังเก่งมาก มันเป็นอาชีพของเขา การสร้างผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen เป็นการเล่นแร่แปรธาตุในจินตนาการ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ รวมถึงเปลี่ยนองค์ประกอบของเสียง การออกแบบ และงานฝีมือให้มีค่ามากกว่าชิ้นส่วนทั่วไป ในการทำให้เวทมนตร์นั้นเกิดขึ้นจริง คุณต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่กระตือรือร้นที่สุดเท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่ Geoff เข้ามาพร้อมกับทีมวิศวกร เขาทดสอบเสียงของลำโพงและหูฟังใหม่อย่างไม่ลดละระหว่างการออกแบบ โดยใช้หูประมวลผลเพื่อปรับแต่งผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างที่เขาช่วยพัฒนาอย่างพิถีพิถัน
กระบวนการสร้างสรรค์
“เป้าหมายของเราคือการสร้างลำโพงที่มีการปฏิบัติเสมือนอยู่สตูดิโอบันทึกเสียงและมอนิเตอร์ของสตูดิโอ” Geoff อธิบายเมื่อเราไปเยี่ยมเขาที่สำนักงานใหญ่ Bang & Olufsen ใน Struer ประเทศเดนมาร์ก โดยพื้นฐานแล้ว Geoff และเพื่อนร่วมงานของเขาทำงานเพื่อให้เสียงของหูฟังและลำโพงของเราคงความเป็นดนตรีอย่างแท้จริง และไม่เคยประณีประนอมกับความตั้งใจเดิมของศิลปิน แต่คุณจะจัดการการให้มันสมดุลอย่างไร
สำหรับ Bang & Olufsen ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามประสบการณ์ของมนุษย์ แม้กระทั่งในช่วงเริ่มต้นของการ สร้างผลิตภัณฑ์ “เราไม่สามารถทำการวัดทั้งหมดที่เป็นไปได้ ซึ่งอาจจะใช้เวลาตลอดไป เพราะมีการวัดจำนวนอนันต์ที่ต้องทำ” Geoff กล่าว การทดสอบเสียงทั้งหมดเริ่มต้นด้วยการฟังเพลงแทน “ฉันมีหนึ่งหรือสองเพลงที่ฉันใช้เริ่ม” Geoff อธิบาย “ฉันไม่เคยตัดสินพวกเขา แต่มันช่วยให้ฉันตัดสินใจว่าแท้จริงปัญหาเกิดจากที่ไหนกันแน่” จากจุดนั้น Geoff ได้ย้ายไปยังรายการแทร็กของเพลงมากมายที่เขาใช้ทดสอบเสียงเบส เสียงระดับกลาง การเห็นภาพและอื่นๆ โดยขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เขาได้ยินข้อบกพร่องใดๆ ซึ่งกระบวนการนั้นสามารถอยู่ได้นานหลายเดือน
มีอะไรใหม่ๆทุกวัน
ในท้ายที่สุด ความหลากหลายของโครงการที่ทำให้ Geoff รู้สึกตื่นเต้นในแต่ละวัน “บางวันก็เป็นนักพูดที่ยิ่งใหญ่ บางวันก็เป็นผู้พูดตัวเล็ก” เขากล่าว “บางวันก็เป็นหูฟัง บางวันก็เป็นเครื่องเสียงรถยนต์… ฉันเบื่อง่าย ดังนั้น ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ดีมากสำหรับฉันในการทำงานเพราะฉันไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร”
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกวัน 11:00 – 20:00 น.
Bang & Olufsen Flagship ชั้น 1 ICONLUXE Iconsiam
โทร 02 087 9289 I 092 996 7939
Bang & Olufsen ชั้น 1 Central World
โทร 02 050 48991 I 092 476 8938
Bang & Olufsen ชั้น 4 Central Embassy
โทร 02 000 5521 I 092 759 6988
Bang & Olufsen ชั้น 1 Emporium
โทร 02 664 8202 I 098 971 9767
Bang & Olufsen ชั้น 1 Central EastVille
โทร 02 553 6129 I 092 909 3558
ติดตามข่าวสารและพูดคุยเกี่ยวกับสินค้าได้ที่
Facebook : Bang & Olufsen Bangkok
Instagram : @bangolufsenbkk
Line Official : @bangandolufsenth
Twitter : @BoonlapoCoLtd
TikTok : @boonlapo
LinkedIn : Boonlapo
หรือ โทรติดต่อ 093 137 8922