Beovision Harmony & Beolab 5 การผสมผสานระหว่างยุคเก่าและยุคใหม่อย่างลงตัว

Beovision Harmony เป็นหนึ่งในชุด TV ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและเป็นสินค้าขายดีที่สุดของ B&O จุดเด่นคือการออกแบบลำโพงที่แบ่งเป็น 2 ข้าง(ซ้าย-ขวา)สามารถกางออก(ปีกผีเสื้อ)เมื่อเปิดใช้งาน และพับเก็บตัวได้เมื่อปิดใช้งานหรือเล่นเพลงผ่านมือถือ ตัวขาตั้งยังมีระบบไฮดรอลิคไฟฟ้าช่วยยกจอภาพขึ้นเผยให้เห็นความสุดยอดของหน้าจอ LG Oled เรียกได้ว่า Beovision Harmony คือ TV ที่ดีที่สุดทั้งภาพและระบบเสียง

วันนี้ผมขอแบ่งปันประสบการณ์ดีๆให้สาวก B&O ได้รับชมกันนะครับ

ผมมีโอกาสได้ดูแลเรื่องเครื่องเสียงให้ลูกค้าท่านหนึ่ง ซึ่งมีลำโพงรุ่นเก่าของ B&O รุ่น Beolab 5(2003) เป็นลำโพงที่มีชื่อเสียงรุ่นหนึ่งของ B&O หลายๆท่านเรียกว่ารุ่น UFO/จานบิน ซึ่งมีอายุเป็น 10 ปีแล้ว แต่ไม่มีปัญหาครับ ผมแนะนำ Beovision Harmony 65" เลือก Cover เป็นแบบผ้าโทนเข้มเพื่อให้เข้ากันกับ Beolab 5 ที่ลูกค้ามีอยู่

Beolab 5 สามารถเชื่อมต่อกับ Beovision Harmony ได้เลยผ่านเทคโนโลยี PowerLink ของ B&O และยังสามารถทำงานร่วมกับ Speaker Groups ของ Beovision Harmony ได้โดยกำหนดบทบาทตำแหน่งลำโพง เพิ่มระยะ ความดัง จัดการย่านความถี่ต่างๆเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด 

ชุดนี้ติดตั้งเป็นระบบเสียงรอบทิศทาง 5 ch ไม่มี Subwoofer โดยใช้ลำโพงจาก Beovision Harmony (3ch) ตั้งค่าเป็น Center และ Beolab 5 ทั้ง 4 ตัวแบ่งเป็นคู่หน้า และหลัง แบ่งโหมดการทำงานของลำโพงทั้งหมดโดยการตั้งค่าล่วงหน้าจาก source ที่เข้ามา เช่น แอพที่ใช้บ่อยๆ Netflix แน่นอนว่าโหมดเสียงใช้ Movie เลือกกลุ่มลำโพงให้ทำงานแบบ Surround โดยที่ไม่ต้องปรับอะไรๆอยู่ตลอด ช่างสะดวกสบายดีจริงๆ555

นอกจากเน้นเรื่องเสียงแล้ว เรื่องความสวยงามก็ไม่แพ้กันครับ เลือกตำแหน่งลำโพงได้ตามการใช้งานและความสวยได้เลย แล้วให้เทคโนโลยีในลำโพงช่วยปรับเรื่องเสียงทำให้ลูกค้าไม่ต้องปวดหัวเรื่องจูนเสียงอีกต่อไป

ติดตั้งเสร็จก็แนะนำการใช้งานลูกค้า ทั้งหมดนี้ใช้รีโมท 1 ตัวคือ Beoremote One และ Bang&Olufsen App เพื่อเข้าถึงการใช้งานและการตั้งค่าต่างๆ

ในยุคนี้ที่ทุกๆอย่างผู้ใช้และผู้ฟังอย่างเราสามารถเข้าถึงความบันเทิงทั้งภาพและเสียงได้ง่ายดายผ่านอินเตอร์เน็ต แน่นอนว่าเครื่องเสียง Hi-End หรือลำโพงประสิทธิภาพสูงที่รองรับ Content และ Streaming ต่างๆนั้นย่อมทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น

เมื่อข้อจำกัดหลายๆอย่างถูกฉีกออกไป เช่น การปรับ Acoutics ของห้อง ระยะ/ตำแหน่ง คุณภาพสาย หรือจุดนั่งฟัง(Sweet spot) คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆของคุณได้อย่างเต็มที่ เช่น ดูหนังร่วมกับครอบครัวในพื้นที่ส่วนกลางของบ้านได้เลยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความยุ่งยากของสายไฟต่างๆ แอมป์ หรือกล่องคอนโทรล เพราะ B&O ออกแบบให้เป็นมิตรกับทุกคนในบ้าน น้อยชิ้นแต่เต็มไปด้วยคุณภาพและรูปลักษณ์ที่ทำให้บ้านสวยขึ้น

จริงๆแล้วรายละเอียดทางเทคนิกค่อนข้างเยอะผมจะไม่ลงในนี้ทั้งหมดในคราวเดียว เพราะกลัวหลายๆท่านจะเบื่อกัน(อ่านไม่ไหว555) ผมจะค่อยๆลงโพสต์ทีละเคสให้เห็นไอเดียเผื่อสาวก B&O หลายๆท่านอาจจะนำไปปรับใช้กันกับที่บ้านของท่านเอง

ขอบคุณสำหรับพื้นที่ครับ