Beolit 20 | Beosound A5 ความคล้ายที่แตกต่าง รีวิว By Boonlapo

 

สวัสดีครับ เพื่อน ๆ และแฟนเพจ Boonlapo News วันนี้แอดมินจะมาไขข้อสงสัยและมาสรุปรีวิว สุดยอดลำโพงพกพาตัวใหม่ของ Bang & Olufsen Beosound A5 ให้กระจ่างกัน โดยเฉพาะความแตกต่างกับลำโพงพกพารุ่นพี่ที่ได้วางจำหน่ายมาอย่างยาวนานอย่าง Beolit 20 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจการออกแบบครั้งนี้ โดยนักออกแบบ GamFratesi จาก Danish Design Studio ได้กล่าวว่า “แรงบันดาลใจของเราสำหรับ Beosound A5 มาจากหลาย ๆ ที่ รวมถึงซีรีส์ Beolit อันเป็นสัญลักษณ์ เช่นเดียวกับวัสดุธรรมชาติที่มีความหมายเหมือนกันกับสีและพื้นผิวที่พบในธรรมชาติของสแกนดิเนเวีย”

 

 

อย่างแรกเลยที่แอดมินอยากจะเปรียบเทียบ คือในเรื่องของรูปลักษณ์และการออกแบบ

Beosound A5 เป็นการออกแบบของสองคู่หูดีไซน์เนอร์ GamFratesi ที่นำเสนอจุดเด่นด้านความเรียบง่าย หรูหรา ประณีตพิถีพิถันและสีที่สื่อถึงธรรมชาติของสแกนดิเนเวีย ด้วยการใช้วัสดุเกรดพรีเมียม อะลูมิเนียม ไม้โอ๊ก กระดาษสาน และโพลิเมอร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่างานออกแบบและวัสดุที่ทางแบรนด์เลือกใช้ มีความประณีตพิถีพิถันและใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งแตกต่างกับ Beolit 20 ที่จะเน้นความเรียบง่าย ใช้งานได้คล่องตัว โดยมีวัสดุหลักอย่าง อะลูมิเนียม และโพลิเมอร์ ช่วยให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่เบาและแตกต่างกับ Beosound A5 ถึง 1.1 กิโลกรัม

 

 

การออกแบบ Modular design โดยแนวคิด Longevity

Beosound A5 สร้างมาเพื่อการใช้งานที่ยาวนานและยังสามารถวิวัฒนาการได้อีกด้วย การออกแบบแบบโมดูลาร์หมายความว่าสามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ ช่วยให้เปลี่ยนแปลงการตกแต่งตัวลำโพง หรือชิ้นส่วนที่เสียหายได้ แทนที่จะต้องเปลี่ยนลำโพงทั้งหมด และการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านแอปพลิเคชันนำมาซึ่งคุณสมบัติใหม่ ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ประสบการณ์การฟังเพลงของคุณดีขึ้นเรื่อย ๆ

 

และอีกหนึ่งอย่างที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คือปุ่มควบคุมด้านบนตัวเครื่อง ช่วยให้ง่ายต่อการเล่นในแบบของคุณ: หยุดชั่วคราว, เปลี่ยนระดับเสียง, ข้ามเพลง และเข้าถึงสถานีวิทยุหรือเพลย์ลิสต์ที่คุณต้องการโดยใช้ปุ่มรายการโปรดได้อย่างง่าย ซึ่งสำหรับลำโพง Beolit นั้น จะไม่มีปุ่มข้ามเพลง ปุ่มรายการโปรด และตัวเครื่องจะไม่มีมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นมา แต่ไม่ใช่กับ Beosound A5 ที่มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP65 มาด้วยนั่นเอง

 

 

Beosound A5 เสียงที่โดดเด่นไม่แพ้รูปลักษณ์

ต่อกันด้วยสิ่งสำคัญนั่นก็คือ เสียงของลำโพง Beosound A5 และ Beolit 20 ที่ให้เสียงแบบ 360 องศา Beosound A5 ติดตั้งไดรเวอร์ 4 ตัว ประกอบด้วย วูฟเฟอร์ 5.25 นิ้ว 1 ดอก, ฟูลเรนจ์ 2 นิ้ว 2 ดอก, ทวีตเตอร์ 0.8 นิ้ว 1 ดอก เข้ากับแอมป์ Class D โดยมีกำลังขับรวมอยู่ที่ 280W มากกว่าลำโพง Beolit 20 ที่สามารถให้กำลังสูงสุดที่ 240W พร้อมด้วยการจัดวางดอกลำโพงคนละด้านเพื่อกระจายเสียงรอบตัวแบบ 360 องศา นอกจากนี้ Beosound A5 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี RoomSense ปรับการเล่นตามพื้นที่ของคุณ คุณจึงได้รับเสียงที่มีความเที่ยงตรงอย่างดีที่สุดเสมอ RoomSense จึงนับได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เพราะเดิมนั้นเทคโนโลยีนี้จะอยู่ในลำโพงเรือธงของทาง B&O อย่าง Beolab 90

 

สำหรับ Beosound A5 ส่วนตัวแล้ว แอดมินว่า Beosound A5 ค่อนข้างเหมาะสำหรับเพลง แจ๊ส, อะคูสติก, ป๊อบ บทเพลงที่ฟังสบาย ๆ ด้วยเสียงกลางและเสียงสูง ที่มีความโดดเด่นและคมชัด สามารถเก็บรายละเอียดของเสียงได้อย่างดีแม้รายละเอียดเล็ก ๆ อย่างเสียงเคาะ เสียงฉาบ อีกทั้งเสียงเครื่องดนตรีอย่างเปียโน ไวโอลิน หรือกีตาร์ ก็มีความคมชัด ใส ฟังสบาย แต่สำหรับสายปาร์ตี้ที่เน้นเสียงเบส อาจจะพอไหวแต่ไม่ได้สมใจที่หวังมากหนัก ด้วยสไตล์ B&O ที่มาในลักษณะนุ่ม ฟังสบายด้วย woofer ขนาด 5.25 นิ้ว ลูกขนาดกลาง ก็มีความสามารถที่ลงเสียงเบสได้ความลึกกำลังดี ช่วยเสริมความหนักแน่นและความกลมกล่อมให้กับบทเพลงให้ไม่รู้สึกเบาหรือหนักจนเกินไป ซึ่งถ้าถามถึงความหนักแน่นแอดมินว่ามีน้ำหนักพอตัวแต่ยังคงไปให้สุดได้อีก

 

แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพื่อน ๆ ยังสามารถใช้งานฟังก์ชัน Beosonic ปรับแต่งเสียงได้เบื้องต้น และเพื่อให้เข้าถึงประสบการณ์ในการฟังเพลงและเพิ่มมิติของเสียงได้มากขึ้นด้วยการจับคู่แบบ Stereo Beosound A5 2 ตัวเข้าด้วยกัน ที่บอกได้เลยว่าเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงอย่างมากเลยทีเดียว อีกทั้งยังรองรับ Beolink Multiroom ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ในห้องใด หรือมีลำโพงของ B&O ที่รองรับฟีเจอร์นี้อยู่ในห้องอื่น ๆ ภายในบ้าน ก็สามารถเพลิดเพลินกับเพลงโปรดไปได้พร้อม ๆ กันอย่างง่ายดาย

 

 

การเชื่อมต่อ

ลำโพง Beosound A5 รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 และ Wi-Fi ทั้งคลื่น 2.4GHz และ 5GHz

สำหรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูท มีความเสถียรดีมาก และสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเปลี่ยนเพลง เพิ่ม ลด เสียง เป็นต้น

ในการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน B&O ในการ Set up ในครั้งแรก ซึ่งจะรองรับการสตรีมมิ่งผ่าน AirPlay 2, Beolink Multiroom, Chromecast built-in, Spotify Connect, Deezer, Tidal Connect

 

ระยะเวลาการใช้งาน

แบตเตอรี่ของ Beosound A5 นั้นสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเหมาะมาก ๆ ในการพกพาไปทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งยังมาพร้อมกับแท่นชาร์จ Qi ไว้ให้ทุกท่านหายกังวล ว่าจะสามารถสตรีมมิ่งได้ยาวนานไม่ต้องกลัวโทรศัพท์แบตเตอรี่หมดอีกด้วยครับ

 

กล่าวถึง Beosound A5 มามากมาย แต่ก็มีหลาย ๆ ท่านสอบถามแอดมินเข้ามานะครับว่าระหว่าง Beolit 20 กับ Beosound A5 จะเลือกซื้อตัวไหนดี วันนี้แอดมินก็มีข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ทุกท่านประกอบการตัดสินใจด้วยครับ

 

	Beolit 20	Beosound A5
วัสดุและงานออกแบบ	ออกแบบโดย Cecilie Manz ตัวเครื่องจากอะโนไดซ์อะลูมิเนียมดีไซน์เรียบหรู ด้ามจับหนังแท้แข็งแรงทนทาน ฐานพอลิเมอร์ป้องกันการกระแทกได้อย่างดี พกพาง่าย น้ำหนักเพียง 2 กิโลกรัม	งานออกแบบร่วมกันระหว่าง B&O และ GamFratesi จาก Danish Design Studio ตัวเครื่องจากเส้นใยสาน, ไม้โอ๊กและอะโนไดซ์อะลูมิเนียม ตกแต่งบ้านหรือพกพาไปทำกิจกก็ดูดีไม่เหมือนใคร ด้ามจับไม้แข็งแรงและสวยงาม ฐานพอลิเมอร์ป้องกันการกระแทกได้อย่างดี รองรับ IP65 ป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์และป้องกันละอองน้ำได้ พกพาง่าย น้ำหนักเพียง 3.7 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อ	Bluetooth 4.2	Bluetooth 5.2 Airplay 2 Beolink Multiroom Chromecast built-in Spotify Connect
เสียงและการใช้งาน	กำลังขับสูงสุดถึง 240 วัตต์ เสียงทรงพลัง 360 องศา ใช้งานง่ายเพียงเชื่อมต่อผ่านบลูทูท มาพร้อมแท่นชาร์จไร้สาย Qi ใช้งานได้ยาวนานกว่า 6 – 8 ชั่วโมง	กำลังขับ 280 วัตต์ เสียงทรงพลัง กระจายเสียงได้อย่างทั่วถึง ด้วยเทคโนโลยี Roomsense เชื่อมต่อได้ทั้งบลูทูท และ Wi-Fi ใช้งานง่ายเพียง Set up ในครั้งแรก มาพร้อมแท่นชาร์จไร้สาย Qi ใช้งานได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง

 

หากจะกล่าวโดยสรุปคือ Beosound A5 เป็นลำโพงพกพาเสียงทรงพลัง สามารถใช้ในบ้านหรือนอกบ้านได้สะดวกสบาย เนื่องจาก Beosound A5 เชื่อมต่อผ่านได้ทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth ซึ่งสามารถสตรีมมิ่งได้อย่างหลากหลายและในเรื่องของเสียงด้วยการจัดวางลำโพงที่กระจายทั้ง 2 ด้านช่วยกระจายเสียงได้อย่างทั่วถึง และยังคงเก็บรายละเอียดเสียงได้อย่างดี ตัวเครื่องมาพร้อมวัสดุพรีเมียม ช่วยนำไปตั้งจัดวางภายในบ้านได้อย่างลงตัว แตกต่างกับ Beolit ซึ่งหากเพื่อน ๆ เน้นการพกพานอกบ้านเป็นหลัก และชอบความเรียบง่ายในการใช้งานผ่านการเชื่อมต่อบลูทูท แอดมินขอแนะนำ Beolit 20 เลยครับ แต่หากมีงบส่วนหนึ่งและอยากจะจัดลำโพงพรีเมียมในด้านคุณภาพเสียงและวัสดุแล้วคงจะหนีไม่พ้น Beosound A5 แน่นอน ซึ่งแอดมินเชียร์ให้อัปเกรดกัน แต่ด้วยทั้งหมดที่กล่าวมานี้แอดขอแนะนำให้มาลองสัมผัสและฟังเสียง Beosound A5 และ Beolit 20 ตัวจริงกันก่อนที่สาขาของเรา เพื่อพิจารณาในการประกอปการตัดสินใจซื้อนะครับ วันนี้แอดมินและทีมงานขอตัวลาไปก่อนเช่นเคย สวัสดีครับ

 

 

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกวัน 11:00 – 20:00 น.

Bang & Olufsen Flagship ชั้น 1 ICONLUXE Iconsiam
โทร 02 087 9289 I 092 996 7939

Bang & Olufsen ชั้น 1 Central World
โทร 02 050 48991 I 092 476 8938

Bang & Olufsen ชั้น 2 Siam Paragon
โทร 02 125 3047 I 098 393 8077

Bang & Olufsen ชั้น 4 Central Embassy
โทร 02 000 5521 I 092 759 6988

Bang & Olufsen ชั้น 1 Emporium
โทร 02 664 8202 I 098 971 9767

Bang & Olufsen ชั้น 1 Central EastVille
โทร 02 553 6129 I 092 909 3558

 

ติดตามข่าวสารและพูดคุยเกี่ยวกับสินค้าได้ที่

Facebook : Bang & Olufsen Bangkok
Instagram : @bangolufsenbkk
Line Official : @bangandolufsenth
Twitter : @BoonlapoCoLtd
TikTok : @boonlapo
LinkedIn : Boonlapo

หรือ โทรติดต่อ 093 137 8922